ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (TACTICS) บูรณาการกำลัง กับกรุงเทพมหานคร สำนักเทศกิจ กรมการขนส่งทางบก และกองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกันกวดขันวินัยการจราจรบนทางเท้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
เนื่องด้วยมีประชาชนผู้ใช้ทางเท้าได้รับความเดือดร้อนจากกรณีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยมีพฤติกรรมขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า และในลักษณะย้อนศร ซึ่งได้สร้างปัญหาและอุบัติเหตุแก่พี่น้องประชาชนบนทางเท้าเป็นอันมากดังปรากฏตามสื่อหลากหลายแขนง และตามสื่อโซเชียลมีเดีย อีกทั้งยังมีการร้องเรียนผ่านเพจเฟสบุ๊ค “สุรเชษฐ์ หักพาล” และ “นิธิธร จินตกานนท์” ทำให้ประชาชนคนเดินเท้าไม่ปลอดภัย และเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้อิฐบนทางเท้าพังเสียหาย
ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (TACTICS) กองบังคับการตำรวจจราจรจึงได้บูรณาการกำลังร่วมกับกรุงเทพมหานคร สำนักเทศกิจ กรมการขนส่งทางบก ร่วมกันกวดขันวินัยการจราจรบนทางเท้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริเวณป้ายรถประจำทางเกาะกลางถนนพญาไท ฝั่งหน้าห้างสรรพสินค้าเซนเตอร์วัน 
ถนนพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร, พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. โดยในวันนี้ (๒๐ก.พ.๖๒) เวลา ๑๖.๐๐ น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.๕ บก.จร.,พ.ต.ท.เจษฎา ยางนอก รอง ผกก.๒ บก.จร., พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ สว.งานสายตรวจ๑ กก.๑ บก.จร. ร่วมกับ นายจิรวัฒน์ แพงมา ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส.ตร. ชุดที่ ๓๕ ,บก.จร. และ สน.พญาไท ร่วมกันกวดขันวินัยจราจรบนทางเท้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพิ่มความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน อีกทั้งเป็นการยืดอายุการใช้งานทางเท้าให้สามารถใช้งานได้ต่อไป โดยได้มี
การปฏิบัติในพื้นที่กรุงเทพมหานครดังนี้
ปฏิบัติการต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.ค.๖๑ จนถึงปัจจุบัน ปฏิบัติการทั้งหมด ๒๓๓ จุด พบการกระทำความผิดและดำเนินคดีแล้วทั้งสิ้น ๑๔,๕๒๖ ราย โดยในวันนี้ (๒๐ก.พ.๖๒) จับกุมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า เน้นจุดถนนพหลโยธินและทั่วกรุงเทพมหานคร จำนวน ๗๐ ราย
โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.๒๕๓๕ มาตรา ๑๗ และ ๕๖ โดยต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔๓(๗) และ ๑๕๗ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ ๔๐๐ – ๑,๐๐๐ บาท ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔๑ และ ๑๔๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาท
อนึ่ง รุงเทพมหานคร กองบังคับการตำรวจจราจรและสำนักเทศกิจได้ประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทราบเกี่ยวกับการขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ผู้ใดที่ฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย และเพื่อให้พี่น้องประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ว่าควรใช้เส้นทางการขับขี่ที่เหมาะสม ไม่สร้างความเดือดร้อนในการใช้พื้นที่สาธารณะของประชาชนผู้ใช้ทางเท้าและเคารพสิทธิ ของผู้อื่นมากยิ่งขึ้น
