ข่าวทั่วไทย » คณะเศรษฐศาสตร์ มข.เผยผลสำเร็จโครงการออมจากเงินอนาคต ชี้ไม่กระทบการใช้จ่ายปัจจุบัน หลังเกษียณมีเงินเก็บเป็นล้าน

คณะเศรษฐศาสตร์ มข.เผยผลสำเร็จโครงการออมจากเงินอนาคต ชี้ไม่กระทบการใช้จ่ายปัจจุบัน หลังเกษียณมีเงินเก็บเป็นล้าน

1 มิถุนายน 2018
776   0

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติและสถาบันวิจัยประชากรและสังคมระบุว่า สถานการณ์การออมของครัวเรือนไทยในปัจจุบันค่อนข้างน่าเป็นห่วง ประมาณร้อยละ 83 ของครัวเรือนไม่ได้มีการออมเงินประจำ นอกจากนั้นราว ๆ ร้อยละ 26 ของครัวเรือนไทยไม่มีเงินออมเลย แม้จะมีการรณรงค์สร้างความตระหนักและให้ความรู้เพื่อส่งเสริมการออม แต่อัตราการออมของครัวเรือนไทยยังคงอยู่ในอัตราต่ำและมีการออมน้อยมาอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายจะนำไปสู่ปัญหาตอนที่เกษียณอายุกัน

จึงเป็นที่มาของโครงการออมจากเงินในอนาคต โดยความร่วมมือของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นและ สหกรณ์ออมทรัพย์ ร.8 พัน 3 จำกัด  อ.เมือง  จ.ขอนแก่น เพื่อศึกษาแนวทางการสร้างแรงจูงใจในการออมเพิ่ม พบทหารทุกนายสมัครใจเข้าร่วมโครงการ เหตุเพราะการออมจากเงินอนาคต แม้ต้องออมเงินเพิ่มทุกเดือนก็ไม่กระทบการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเมื่อคำนวณสัดส่วนเงินออมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต กำลังพลบางนายหลังเกษียณอายุราชการแล้วจะมีเงินเก็บสูงถึง 1,000,000 บาททีเดียว

ผศ.ดร.ภูมิสิทธิ์ มหาสุวีระชัย อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) กล่าวว่า จากการศึกษาพฤติกรรมของคน พบ  โดยทั่วไปคนจะให้ความสำคัญกับปัจจุบันมากกว่าอนาคต การใช้เงินในปัจจุบันสามารถสร้างประโยชน์และให้ความพึงพอใจได้ทันที แต่ผลประโยชน์ที่ได้จากการออมเกิดในอนาคต คนโดยส่วนใหญ่จึงละเลยหรือบังคับตนเองให้ออมได้ยาก เหตุนี้เราจึงเปลี่ยนแนวความคิดในการออมเงินใหม่ เป็นการดึงเงินจากอนาคตมาออมเพิ่มแทน นั่นก็คือเงินเดือนที่ทหารหน่วยนี้จะได้ในอนาคต โดยหักจากส่วนเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นมาออมเพิ่มทุกเดือน เขาก็จะไม่รู้สึกเสียอะไร เงินเดือนที่เพิ่มมาก็ยังได้ใช้จากส่วนต่างที่เหลือจากเงินที่ได้หักเข้าสมทบเงินออมแล้วการใช้รายได้จากอนาคต เป็นการเพิ่มการออม โดยไม่ต้องลดรายจ่ายและไม่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค เพราะเงินที่จะได้ในอนาคตยังไม่ได้เกิด  

ขึ้นจริง(ยังไม่ได้จริง) ดังนั้น การตัดสินใจเพื่อให้หักเงินบางส่วนจากเงินเดือนที่เพิ่มในอนาคต เพื่อมาเพิ่มการออมจึงเป็นเรื่องที่ง่าย การเข้าร่วมโครงการนี้เป็นไปตามความสมัครใจ ซึ่งทุกนายที่เข้าร่วมโครงการไม่มีใครมาแสดงความจำนงที่จะออกจากโครงการแสดงให้เห็นว่าโครงการนี้สามารถจูงใจให้ทหารหน่วยนี้ออมเพิ่มได้จริง ๆ จุดเด่นของโครงการ คือ หนึ่ง สามารถจูงใจให้คนออมเพิ่มได้จริง สองทำได้ไม่ยาก  และสามแทบไม่ต้องใช้งบประมาณอะไรเลย มีคอมพิวเตอร์และโปรแกรมเอกเซลก็สามารถทำงานได้แล้ว

“แนวทางการดำเนินงานเมื่อทุกนายเงินเดือนเพิ่มขึ้น ค่าเฉลี่ยประมาณ 4.5 จากฐานปัจจุบันก็เอาเงินเพิ่มจากที่ปรับขึ้นของเงินเดือนมาออมในสัดส่วนร้อยละ 10 -15- 20 ตามความสมัครใจว่าต้องการให้หักในอัตราส่วนร้อยละเท่าไหร่ และนับไปในอีก 20 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นอายุราชการเฉลี่ยของหน่วยทหารแห่งนี้ โปรแกรมจะคำนวณเห็นเลยว่าเขาจะมีเงินเก็บเมื่อวัยเกษียณเท่าไหร่  ซึ่งในอัตราร้อยละ 10-15 นายทหารส่วนใหญ่จะมีเงินออมวัยเกษียณอยู่ที่คนละ 1,000,000 บาท และถ้าออมเพิ่มร้อยละ 20 เงินออมในอนาคตก็จะสูงขึ้นไปอีก จุดนี้ทำให้ทหารหน่วยนี้สนใจเข้าร่วมโครงการอย่างมากและมีทหารหน่วยข้างเคียงประสานขอเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นด้วย”

เหตุที่เป็นโครงการออมเงินที่ไม่กระทบการใช้จ่ายปัจจุบัน ขณะภายหลังเกษียณยังมีเงินเก็บหลักล้านบาท ทำให้ทหารของหน่วยนี้ตบเท้าเข้าร่วมโครงการทั้งกองพัน โดย พ.ต.อนุชา มหาลีวีรัศมี นายทหารประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก กล่าวสนับสนุนโครงการนี้ ว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบ.ร้อย ประจำ ร.8 พัน 3 ได้รับทราบถึงสภาพปัญหาความเป็นอยู่ของกำลังพลภายในหน่วย โดยเฉพาะเรื่องค่าครองชีพ จากการสำรวจในหมวดของเงินออม ในการดำเนินงานของสหกรณ์ประจำหน่วย โดยในปี 2557-2558 กำลังพลที่เกษียณอายุราชการ หรือสมัครใจออกจากการรับราชการ มีเงินเก็บสะสมค่อนข้างน้อย จึงประสานกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดทำโครงการออมจากเงินอนาคต และนำข้อมูลมาแสดงให้เห็นว่าถ้าเราใช้วิธีออมแบบเดิม เมื่อเกษียณจะมีเงินเก็บแค่ 200,000 -300,000 บาท แต่ถ้าเข้าร่วมโครงการออมจากเงินอนาคต ระยะการออม 20-30 ปี โดยสัดส่วนการออมเพิ่ม คือ การนำส่วนของเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นจากฐานเงินเดือนเดิม  มาออมเพิ่มในอัตราส่วนระหว่าง ร้อยละ 10-15-20 แล้วแต่ใครจะเลือกในอัตราไหนสมมุติฐานเงินเดือน 15,000 บาท และเลือกออมเพิ่มจากเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 20   ทั้งนี้กองทัพบกจะขึ้นเงินเดือนปีละ 2 ครั้ง เริ่มโครงการนี้ปลายปี 59 ตอนนี้เงินเดือนขึ้นมา 3 ครั้งแล้ว โดยเงินเดือนเพิ่มรอบแรก 675 บาท (ฐานเงินเดือน 15,000 บาท ค่าเฉลี่ยเงินเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5)  ร้อยละ 20 ของ 675 บาท คือ 135 บาท  เดิมที่ทหารแต่ละนายต้องออมในสหกรณ์ฯเดือนละ 700 บาท บวก 135 บาท ก็จะออมเพิ่มเดือนละ 835 บาท ออมแบบนี้เขาไม่ได้รู้สึกว่าเสียอะไร ไม่ต้องลดการบริโภคในปัจจุบัน และเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นก็ยังได้รับเช่นเดิมเพียงแต่หักส่วนหนึ่งที่เพิ่มมาเข้าสมทบเงินออม ดังนั้น ทุกครั้งที่เงินเดือนเพิ่ม จำนวนเงินออมต่อเดือนก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยในทุกๆปี พอเกษียณอายุราชการก็จะมีเงินเก็บมากกว่าการออมแบบเดิม”

ตอกย้ำความสำเร็จของโครงการอีกครั้งจากปากของ จ.ส.อ.พงศ์พันธ์ พงษ์จอหอ รองผู้บังคับหมวดปืนเล็ก  ซึ่งได้แสดงความเห็นว่า รูปแบบการออมเงินจากอนาคต เป็นแนวทางที่ดี เพราะไม่รู้สึกว่าต้องใช้จ่ายลดลง ไม่ต้องกระเบียนกระเสียนตัวเองเพื่อให้มีเงินออมมากขึ้น ส่วนเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นก็ยังได้ใช้แม้ส่วนหนึ่ง จะถูกออมไปโดยอัตโนมัติ เราไม่รู้สึกเสียอะไร เรามีแต่ได้กับได้ และเงินออมจากอนาคตตรงนี้จึงไม่กระทบอะไรเลย มั่นใจว่าเกษียณอายุราชการจะมีเงินเก็บหลักล้านแน่นอน !!

โครงการการออมจากเงินในอนาคต นับเป็นการเพิ่มการออมเงินที่ง่าย แต่ได้ประโยชน์ชัด สำหรับหน่วยงานที่สนใจอยากนำโครงการลักษณะนี้ไปขยายยังหน่วยงานของตน สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โทร.081-6299772