ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่เข้ามาก่ออาชญากรรมในประเทศไทย ตลอดจนบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีการกระทำความผิดมาพำนักอยู่ในประเทศไทย เป็นภัยต่อความมั่นคงและชื่อเสียงของประเทศชาติ โดยสั่งการให้ดำเนินคดีถึงที่สุด หรือดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร หากพบว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ โดยให้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อเป็นการสร้างพื้นฐานความร่วมมือต่างตอบแทนระหว่างกัน ในการติดตามจับกุมคนร้ายหนีคดีระหว่างประเทศ
ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.(มค),พลตำรวจโท พรหมธร ภาคอัต ผู้ช่วย ผบ.ตร., พลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พลตำรวจตรี อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ปป) และ พลตำรวจตรี ชูฉัตร ธารีฉัตร ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เร่งรัดการดำเนินการจนเป็นผลสัมฤทธิ์ และนำผลการปฏิบัติมาแถลงผลในวันนี้ (๒๖ ม.ค.๖๑) ดังนี้
สืบเนื่องจากกรณีที่ทางการญี่ปุ่นมีการจับกุมหญิงชาวไทยลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศญี่ปุ่นจำนวนหลายราย สตม.จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลหาเครือข่ายยาเสพติดที่สั่งการ หรือให้การสนับสนุน หรือจัดหายาเสพติด รวมทั้งผู้ติดต่อว่างจ้างหญิงไทยที่ถูกจับกุมดังกล่าว โดย สตม.ได้ทำการสืบสวนจากพยานหลักฐานต่างๆ ทำให้ทราบว่ามีขบวนการชาวไนจีเรียอยู่เบื้องหลัง ร่วมกับหญิงไทย ในจัดหายาเสพติด และว่าจ้างหญิงไทยให้ลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยใช้กระดาษคาร์บอนห่อหุ้มยาเสพติด แล้วซุกซ่อนอยู่ด้านในของผนังกระเป๋า ทั้งนี้จากการสืบสวนสามารถระบุบุคคลและสถานที่ที่เกี่ยวข้องของเครือข่ายยาเสพติดชาวไนจีเรียได้ สตม.จึงได้ร่วมกับ ปส., สพฐ.และสุนัขตำรวจ นำหมายค้นเข้าตรวจค้นจุดเป้าหมายหลายจุดทั้งในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ ๒๓ ม.ค.๖๑ เรื่อยมาจนถึงวันที่ ๒๖ ม.ค.๖๑ ผลการตรวจค้นสามารถจับกุมเครือข่ายชาวไนจีเรียได้ ๓ คน คือ นายจัสติน ชีโดซี ยูซุควู(Mr.JUSTIN CHIEDOZIE UZUKWU) สัญชาติไนจีเรีย อายุ 30 ปี, นายเดกแลน กาวดิชิ ยูซุควู(Mr.DECLAN KAODICHI UZUKWU) สัญชาติไนจีเรีย อายุ 32 ปี (พี่ชายนายจัสตินฯ) และนายโอควอร์ สตีเฟน โอนเยม่า(Mr.OKWOR STEPHEN ONYEMA) สัญชาติไนจีเรีย อายุ 35 ปี และสามารถตรวจยึดยาอี น้ำหนักประมาณ ๑.๒ กก. หรือประมาณ ๒,๗๕๐ เม็ด(ซุกซ่อนอยู่ในตู้ไปรษณีย์) และโคเคนกับกัญชาอย่างละประมาณ ๘ กรัม, รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ จำนวน ๑ คัน และกล่องพัสดุที่มีล่องรอยของยาอี ซึ่งจัดส่งมาจากประเทศเบลเยี่ยม ได้จากบ้านพักของนายจัสตินฯ ย่าน ต.บางกระสอ อ.เมือง จว.นนทบุรี
เบื้องต้น จึงทำการจับกุม นายจัสติน ซีโดซี ยูชุควู ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย, มียาเสพติดให้โทษประเภท ๒ (คีตามีน) ไว้ในครอบครอง, มียาเสพติดให้โทษประเภท ๕ (กัญชา) ไว้ในครองครอง และอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด,นายเดกแลน กาวดิชิ ยูชุควู ในข้อหา อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของนายโอควอร์ สตีเฟน โอนเยม่า
หลังจากนี้ สตม.จะทำการสืบสวนขยายผลเพื่อหาเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งประสานข้อมูลกับทางการญี่ปุ่นและทางการเบลเยี่ยมเพื่อร่วมกันสืบสวนขยายผลต่อไป
อนึ่ง การแถลงข่าวนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะชน และขอฝากให้ประชาชนช่วยสังเกตชาวต่างชาติที่มาพักอาศัยใกล้บ้านเรือนท่านหากพบพฤติกรรมไม่เหมือนนักท่องเที่ยวหรือไม่มีงานทำแน่นอน หรือน่าสงสัย ขอให้แจ้งข้อมูลสายด่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ๑๑๗๘ หรือ www.immigration.go.th